ชื่อเรื่อง การพัฒนาบทเรียนคอมพิวเตอร์ (E-Learning) เรื่อง ภาษา HTML ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2

ผู้วิจัย นายกิตติ สุนทรกุลภัทร

ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ชำนาญการ โรงเรียนยางชุมน้อยพิทยาคม อำเภอยางชุมน้อย

จังหวัดศรีสะเกษ

ปีการศึกษา 2556

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนาบทเรียนคอมพิวเตอร์ (E-Learning) เรื่อง ภาษา

HTML ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทาง

การเรียนของนักเรียนก่อนและหลังการเรียน โดยใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ (E-Learning) เรื่อง ภาษาHTML

ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 และ 3) เพื่อศึกษาความพึงใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่มีต่อบทเรียน

คอมพิวเตอร์ (E-Learning) เรื่อง ภาษา HTML กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ เป็นนักเรียนชั้น

มัธยมศึกษาปีที่ 2/6 โรงเรียนยางชุมน้อยพิทยาคม ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2556 จำนวน 42 คน

จาก 1 ห้องเรียน ได้มาจากการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) โดยใช้ห้องเรียนเป็นหน่วย

ในการสุ่ม เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย มี 3 ชนิด ได้แก่ บทเรียนคอมพิวเตอร์ (E-Learning) เรื่อง ภาษา

HTML ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ซึ่งเป็นแบบปรนัย ชนิด 4 ตัวเลือก

จำนวน 40 ข้อ มีค่าความยาก(p) ตั้งแต่ 0.47 ถึง 0.72 มีค่าอำนาจจำแนกรายข้อ(B) ตั้งแต่ 0.31 ถึง 0.63

และมีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.95 และแบบสอบถามความพึงพอใจที่มีต่อการเรียนโดยใช้

บทเรียนคอมพิวเตอร์ (E-Learning) ชนิดมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) 5 ระดับ จำนวน 20 ข้อ

มีคะแนนเฉลี่ยอยู่ระหว่าง 4.20 – 5.00 ค่าเฉลี่ยรวมเท่ากับ 4.75 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.24

ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ที่มีความเหมาะสมมากที่สุด สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย (X)

ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (.S.D) และการทดสอบที (t-test dependent Samples)

ผลการวิจัยพบว่า

1. บทเรียนคอมพิวเตอร์ (E-Learning) เรื่อง ภาษา HTML ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2

มีประสิทธิภาพเท่ากับ 86.46/87.26

2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังเรียนของนักเรียนที่เรียนโดยใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ (E-Learning) เรื่อง ภาษา HTML ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01

3. นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ (E-Learning) เรื่อง ภาษา HTML อยู่ในระดับมากที่สุด โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.79